top of page


เนื่องจากวัยที่อายุขึ้นต้นด้วยเลข 3 เป็นวัยที่คอลลาเจนใต้ผิวของเราจะเริ่มเสื่อมตัวลง พร้อมๆกับระบบการเผาผลาญในร่างกายที่ลดลงด้วย จึงทำให้เกิดการหย่อนคล้อยของผิวบริเวณลำตัวๆ ไขมันส่วนเกินสะสมเฉพาะจุด และน้ำหนักขึ้นได้ถึงแม้จะรับประทานอาหารเท่าๆเดิม จึงมีคำแนะนำตามนี้ค่ะ😊


1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สาวๆที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนควรจะเริ่มออกกำลังกายในวัยเลข 3 นี้ค่ะ เพื่อที่จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย รวมถึงเกิดการสร้างกล้ามเนื้อกระชับสัดส่วนและคุมน้ำหนักให้คงที่ค่ะ

2. เริ่มปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และควบคุมแคลอรี ลดของหวานลง เพิ่มผักและผลไม้ให้มากขึ้นค่ะ

3. สามารถเลือกใช้ตัวช่วย โดยใช้เทคโนโลยีจากประเทศอังกฤษ ชื่อว่า Exilis Elite เป็นคลื่นวิทยุผสานกับอัลตราซาวน์ ช่วยทั้งกระชับผิวบริเวณลำตัวและสลายไขมันได้ในเครื่องเดียว โดยเป็นทรีทเม้นท์ที่ไม่ต้องพักฟื้นใดๆ สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ทำเพียง 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง ต่อเนื่อง 2-4 ครั้ง โดยจุดที่นิยมในการทำ ได้แก่ ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้อง โดยแนะนำให้เข้ารับทรีทเม้นท์นี้ทุกๆปี ก็จะช่วยให้เรือนร่างของเรา กระชับไปตลอดค่ะ😊



ผิวของเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานะคะ

หลายๆท่านประสบปัญหา สิวบุกก่อนประจำเดือนมากันใช่มั้ยคะ บทความนี้หมอจะมาอธิบายถึงกลไกฮอร์โมนในร่างกายตามรอบเดือนที่ส่งผลต่อผิวของเรา เพื่อที่จะได้ดูแลผิวได้ถูกต้องที่สุดกันค่ะ😊


เราจะแบ่งช่วงเวลาออกเป็น 3 ช่วง คือ

✅ก่อนประจำเดือนมา 7-10 วัน ช่วงนี้ฮอร์โมนจะพุ่งสูงมาก ซึ่งจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน หน้าจะมัน สิวเห่อ ดังนั้นเราจึงควรเลือกskincare ที่มีฤทธิ์ควบคุมความมัน ลดการเกิดสิว เช่น Salicylic acid, Niacinamide, Retinol/Retinoid และกลุ่มที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน oil-free, No silicone 👉🏻👉🏻 แนะนำให้ใช้ PKL acne repair serum


✅ช่วงระหว่างมีประจำเดือน 7-10 วัน ช่วงนี้ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งฮอร์โมนเอสโตรเจนจะช่วยให้ผิวส่งผลให้ผิวของคุณแห้ง มีผื่นขึ้นง่ายกว่าปกติ ผิวดูไม่เปล่งปลั่ง จึงควรเลือกskincare ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว(moisturizer) เสริมสร้าง skinbarrier มีสารลดการอักเสบ(soothing effect) ลดการเกิดผดผื่น เช่น Hyaluronic acid, ceramide, niacinamide, NMF, centella asiatica extract👉🏻👉🏻แนะนำให้ใช้ PKL soothing skin serum


✅หลังประจำเดือนหมด 7-10 วัน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ผิวของคุณมีความสมดุลที่สุดค่ะ😊😊



Botox หรือ Botulinum toxin เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ชนิดหนึง นำมาใช้ในการลดริ้วรอยเพื่อความสวยงามอย่างแพร่หลายตั้งแต่ปี 2002 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA approved) เนื่องจากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และมีความปลอดภัยสูง

บริเวณที่นิยมรักษา ได้แก่

✅ขมวดคิ้ว ร่องตรงกลางระหว่างคิ้ว

✅ริ้วรอยหางตา ใต้ตา

✅รอยย่นจมูก

✅ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก

✅รอยย่นที่ลำคอ


กลไกการออกฤทธิ์ คือ สาร botulinum toxin หรือ botox จะไปทำงานที่ปลายประสาท ยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทชนิดหนุึ่งที่มีชื่อว่า acytylcholine บริเวณปลายประสาท มีผลทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆคลายตัว โดยยังสามารถแสดงสีหน้าอารมณ์ได้ตามปกติ 


เริ่มเห็นผลหลังฉีด 3-5 วัน โดยจะเห็นผลเต็มที่ 2 สัปดาห์ และอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน 



ขั้นตอนการรักษา 


1. ปรึกษาแพทย์ถึงปัญหาที่กังวล ผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยแพทย์จะพิจารณาว่าควรใช้ยาปริมาณเท่าใด

2. ทำความสะอาดทั่วใบหน้า

3. ทายาชาก่อนทำการรักษาประมาณครึ่งชั่วโมง หรือเพียงแค่ประคบเย็นก่อนฉีดก็เพียงพอ

4. แพทย์ทำการฉีดโบทอกซ์เข้าสู่ผิว ใช้เวลาประมาณ 15 - 45 นาทีขึ้นอยู่กับบริเวณที่รักษา


ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดโบทอกซ์

* ห้ามนอนราบ หรือตะแคง 3 - 4 ชั่วโมงหลังฉีด เพราะเป็นช่วงการซึมของยาเข้ากล้ามเนื้อ ถ้านอนตะแคงจะทำให้การกระจายตัวของยาผิดจากตำแหน่งที่แพทย์คาดการณ์ไว้ได้ เมื่อเลย 4 ชั่วโมงไปแล้ว สามารถนอน หรือตะแคงได้ตามปกติ

* ขยับใบหน้าบริเวณที่ฉีด ในช่วง 5-10 นาทีหลังการฉีด และงดการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงหลังการฉีด เพื่อให้โบทอกซ์ออกฤทธิ์ได้นานขึ้น

* ภายใน 2 สัปดาห์แรก ควรงดการนวดหน้า ซาวน่าร้อน ทำเลเซอร์ที่มีความร้อนในช่วง 2 สัปดาห์แรก เนื่องจากจะทำให้โบทอกซ์ออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ ความร้อนที่สามารถโดนได้คือ ไดร์เป่าผม อาบน้ำอุ่น ทานชาบูปิ้งย่าง และโดนแสงแดดที่ไม่แรงจ้าเกินไปได้ตามปกติ

bottom of page